สวทช. – พันธมิตร ส่งมอบต้นกล้าราชพฤกษ์อวกาศ ให้สถาบันการศึกษา 21 แห่ง พร้อมปลูกทุกภูมิภาค สร้างเป็นแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์
(20 ธันวาคม 2565) ห้องประชุม SD-601 อาคารสราญวิทย์ สวทช. อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น หรือ แจ็กซา (Japan Aerospace Exploration Agency: JAXA) และหน่วยงานพันธมิตร ส่งมอบต้นกล้าราชพฤกษ์ที่ปลูกโดยใช้เมล็ดที่ผ่านการท่องอวกาศนาน 7 เดือน ให้แก่โรงเรียน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐรวม 21 แห่งทั่วประเทศนำไปปลูก เพื่อต่อยอดสู่การเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากการศึกษาเปรียบเทียบการเติบโตระหว่างต้นราชพฤกษ์อวกาศที่ปลูกด้วยเมล็ดจากอวกาศกับต้นราชพฤกษ์ที่ปลูกด้วยเมล็ดปกติ
ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สวทช. ร่วมกับ JAXA และหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) บริษัท กรีน อินโนเวทีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด และ SPACETH.CO ร่วมกันดำเนินการโครงการ Asian Herb in Space (AHiS) โดยแบ่งกิจกรรมย่อยออกเป็น 2 โครงการ ได้แก่ โครงการทดลองปลูกโหระพาเปรียบเทียบระหว่างบนอวกาศกับบนพื้นโลก และโครงการราชพฤกษ์อวกาศ
“ในวันนี้ สวทช. ได้เชิญชวนหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษาทั่วประเทศที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ รับ ‘ต้นกล้าราชพฤกษ์อวกาศ’ นำไปปลูกเปรียบเทียบกับต้นราชพฤกษ์ที่ปลูกด้วยเมล็ดปกติ เพื่อร่วมศึกษาวิจัยและติดตามการเจริญเติบโตของเมล็ดราชพฤกษ์อวกาศ สำหรับโครงการราชพฤกษ์อวกาศ สวทช. โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน คัดเลือก ‘เมล็ดราชพฤกษ์’ เข้าร่วมโครงการ เนื่องจากราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีความหมายต่อคนไทย ในฐานะ ‘ดอกไม้ประจำชาติ’ อีกทั้งดอกราชพฤกษ์ยังมีสีเหลืองงดงาม เป็นสีประจำคณะวิทยาศาสตร์ในหลายมหาวิทยาลัย ทาง สวทช. ได้ส่งมอบเมล็ดพันธุ์ราชพฤกษ์ จำนวน 360 เมล็ด ให้แก่ JAXA เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 เพื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบร่วมกับเมล็ดพันธุ์พืชจากอีก 11 ประเทศ ก่อนส่งขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติ ในวันที่ 7 ธันวาคม 2563 โดยเมล็ดราชพฤกษ์ของไทยถูกเก็บรักษาไว้ในห้องทดลอง Kibo Module ของ JAXA เป็นเวลาประมาณ 7 เดือน ก่อนจะส่งกลับถึงพื้นโลกในวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 อย่างไรก็ตามหวังว่าการส่งมอบต้นกล้าราชพฤกษ์อวกาศให้แก่สถาบันการศึกษาในเฟสแรกนี้ จะช่วยสร้างโอกาสให้เยาวชนและประชาชนไทยได้เรียนรู้และใกล้ชิดเทคโนโลยีอวกาศมากยิ่งขึ้น”
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.ฤทัยวรรณ โต๊ะทอง รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงความร่วมมือการเพาะกล้าราชพฤกษ์อวกาศและการศึกษาวิจัยว่าทางคณะฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนความร่วมมือด้านกิจกรรมและการวิจัยระหว่างกลุ่มสาขาวิชาชีวนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ฐานชีวภาพอัจฉริยะ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สวทช. และ JAXA ซึ่งนอกจากการส่งมอบตัวอย่างพืชจากสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เพื่อการวิจัยแล้ว ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาของคณะวิทยาศาสตร์เข้าร่วมกิจกรรม มีการแลกเปลี่ยนความรู้กับหน่วยงานวิจัยระดับชาติ สามารถสร้างแรงบันดาลใจและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์อวกาศ ซึ่งเป็นหนึ่งในการวิจัยขั้นแนวหน้าสำหรับอนาคตของ ทั้งนี้ โครงการ Asian Herb in Space (AHiS) ได้รับความอนุเคราะห์ให้ใช้โรงเรือนวิจัยของภาควิชาพฤกษศาสตร์ในพื้นที่ศาลายาสำหรับดำเนินโครงการราชพฤกษ์อวกาศ ทางคณะฯ มีความคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าต้นราชพฤกษ์อวกาศที่แจกจ่ายไปยังหน่วนงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้ผ่านสภาพแวดล้อมที่รุนแรงในอวกาศมาแต่ยังสามารถเจริญเติบโตอย่างงดงามต่อไปได้ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนของประเทศไทยและความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจด้านอวกาศของมวลมนุษยชาติ
สำหรับโครงการราชพฤกษ์อวกาศเฟสแรก มีสถาบันการศึกษาที่ได้รับมอบต้นกล้าราชพฤกษ์จำนวน 21 แห่ง ประกอบด้วย ภาคกลาง โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา, โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (วัดน้อยใน) ในพระราชูปถัมภ์ฯ, โรงเรียนโยธินบูรณะ, St. Andrews International School Bangkok, โรงเรียนยอแซฟอยุธยา, โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์, โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย และภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ภาคเหนือ โรงเรียนอุตรดิตถ์, โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา, และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคอีสาน โรงเรียนอุบลรัตนราชกัญญาราชวิทยาลัย นครราชสีมา, โรงเรียนประทาย, โรงเรียนวัดห้วยจรเข้วิทยาคม, โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม, โรงเรียนม่วงสามสิบอัมพวันวิทยา, โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย บุรีรัมย์, โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร, โรงเรียนบ้านม่วงพิทยาคม, โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) และโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ทั้งนี้หน่วยงานที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการราชพฤกษ์อวกาศในระยะต่อไป สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://www.nstda.or.th/spaceeducation และเฟซบุ๊ก NSTDA SPACE Education