วศ.หนุนยกระดับความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ พร้อมนำเสนอผลงานเด่น ในงาน Thailand LAB 2023

วศ.หนุนยกระดับความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ ชี้ช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน วอนผู้เกี่ยวข้องตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม  เตรียมจัดสัมมนา ฯ ในงาน Thailand LAB 2023 พร้อมนำเสนอผลงานเด่นตัวอย่างทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ “Mercury (Hg) in water” แสดงความสามารถของห้องปฏิบัติการไทย ทำให้ปรอทที่ความเข้มข้นต่ำมากๆ มีความคงตัวสูงขึ้น สามารถใช้งานได้นานถึง 6 เดือน

นางสาวดวงกมล  เชาวน์ศรีหมุด   ผู้อำนวยการกองตรวจและรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.)  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการมีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ที่ปฏิบัติงาน เพราะต้องเจอกับความเสี่ยงทุกวันทั้งด้านสารเคมีร้ายแรง  และอันตรายจากการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ  เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม สามารถสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการอย่างยั่งยืน และพัฒนาสู่มาตรฐานห้องปฏิบัติการวิจัยในระดับสากล  ในปี 2565 ที่ผ่านมา  วศ. และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินโครงการตรวจประเมินและรับรองห้องปฏิบัติการในรูปแบบ Peer Evaluation ขึ้น เพื่อพัฒนาและเสนอแนวทางในการใช้ห้องปฏิบัติการอย่างปลอดภัย ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงสร้างจิตสำนึกของผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่เกี่ยวข้องให้ตระหนักในความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

โดย วศ. ได้ดำเนินการเป็นผู้ตรวจประเมินและรับรองห้องปฏิบัติการปลอดภัยในรูปแบบ Peer Evaluation เพื่อนำไปสู่ห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการ ESPReL checklist  ซึ่งมีองค์ประกอบ 7 ด้าน ได้แก่ การบริหารระบบการจัดการความปลอดภัย ระบบการจัดการสารเคมี ระบบการจัดการของเสีย ลักษณะทางกายภาพของห้องปฏิบัติการ อุปกรณ์และเครื่องมือ ระบบการป้องกันและแก้ไขภัยอันตราย การให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ และการจัดการข้อมูลและเอกสาร

“มาตรฐานความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการ ESPReL checklist  เป็นการตรวจประเมินระดับหนึ่ง ที่ยังไม่ถึงขั้นการตรวจประเมินเพื่อขอมาตรฐาน ISO  ต่าง ๆ  โดยเป็นเสมือนเพื่อนตรวจเพื่อนที่อาศัยความเชี่ยวชาญซึ่งกันและกัน  ทั้งนี้ ESPReL checklist เริ่มมีการนำมาใช้เมื่อ 2-3 ปีก่อนหน้านี้ โดย วช.ให้ความสำคัญและผลักดันเรื่องดังกล่าว ในระยะแรกมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยในกลุ่มห้องปฏิบัติการในสถาบันการศึกษา  และเมื่อปีที่ผ่านมา  วช. ต้องการขยายแนวคิดไปสู่ห้องปฏิบัติการอื่น ๆ จึงลงนามความร่วมมือและให้ทุนสนับสนุน วศ. ในการดำเนินการจัดอบรม-สัมมนาห้องปฏิบัติการให้เห็นความสำคัญของความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ และได้ดำเนินการตรวจประเมินและรับรองห้องปฏิบัติการปลอดภัยในรูปแบบ Peer Evaluation ให้ห้องปฏิบัติการในหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล”

นางสาวดวงกมล   กล่าวอีกว่า  คนที่ทำงานในห้องปฏิบัติการต้องเจอสารเคมีเยอะมาก  จึงต้องตระหนักถึงอันตรายที่รอบ ๆ ตัว และจำเป็นต้องมีวิธีบริหารจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น  ซึ่งอยากเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการที่มีอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงผู้บริหารห้องปฏิบัติการ หรือผู้นำองค์กรที่มีห้องปฏิบัติการอยู่ในสังกัด เห็นความสำคัญของเรื่องดังกล่าว ซึ่งเกี่ยวข้องอย่างมากกับชีวิตของผู้ปฏิบัติงานรวมถึงเรื่องของสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย 

อย่างไรก็ดีในวันที่ 6 กันยายนนี้ กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.)  ได้จัดให้มีการสัมมนาวิชาการเรื่อง  “ยกระดับความปลอดภัยห้องปฏิบัติการตาม ESPReL checklist ในรูปแบบ Peer Evaluation” ขึ้นในงาน Thailand LAB International 2023  ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกับงาน Bio Asia Pacific 2023 และ งาน FutureCHEM INTERNATIONAL 2023   ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา    

นอกจากนี้ในงานดังกล่าว วศ. ยังร่วมจัดกิจกรรมการสัมมนารวมถึงนิทรรศการที่น่าสนใจ อาทิ การสัมมนา“การจัดการความเสี่ยงของผู้จัดโปรแกรมการทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ  (PTPs)”  เพื่อให้ห้องปฏิบัติการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนด ISO  17043 ที่มีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่เรียบร้อยแล้ว และสามารถเตรียมตัวยื่นขอการรับรองได้อย่างถูกต้อง  การสัมมนา “การพัฒนาห้องปฏิบัติการทดสอบทางประสาทสัมผัสเพื่อขอการรับรอง ISO 17025 : 2017”  ซึ่งจะมีข้อกำหนดเพิ่มเติมของหน่วยงานรับรอง โดยการรับรองดังกล่าวจะ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับห้องปฏิบัติการฯ รองรับภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะด้านอาหารที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

สำหรับนิทรรศการมีทั้งนำเสนอบทบาทของ วศ. โดย กองบริหารและรับรองห้องปฏิบัติการ   ในฐานะหน่วยรับรองระบบงานของประเทศไทย ที่ให้การรับรองใน 3 ขอบข่ายงานคือ การรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบตามมาตรฐานISO/IEC 17025 การรับรองความสามารถผู้จัดโปรแกรมการทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ISO/IEC 17043  และการรับรองผู้ผลิตวัสดุอ้างอิงตาม ISO17034ส่วนกองบริหารจัดการทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ  นำเสนอการพัฒนาตัวอย่างทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ ในรายการของ Mercury (Hg) in water หรือปรอทในน้ำ  ซึ่งปรอทเป็นโลหะที่มีพิษสูงมาก  หน่วยงานด้านมาตรฐานทั่วโลกได้มีการกำหนดวิธีมาตรฐานสำหรับตรวจวัด และการเปรียบเทียบผลการวัดระหว่างห้องปฏิบัติการผ่านการทดสอบความชำนาญ เพื่อทวนสอบความใช้ได้ของผลการวัด   แต่เนื่องจาก ปรอทที่มีความเข้มข้นต่ำมากๆ จะมีความคงตัวต่ำ สามารถระเหยได้ง่าย วศ. จึงร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ  พัฒนาปรอทในน้ำ ที่มีระดับความเข้มข้นต่ำมาก ๆ ให้มีความคงตัวได้นานขึ้น โดยมีอายุการใช้งานได้นานถึง 6 เดือน

ขณะที่กองตรวจและรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์   นำเสนอการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน : ผลิตภัณฑ์วัสดุสัมผัสอาหาร จากธรรมชาติ ได้แก่ ภาชนะกาบหมาก หลอดกระจูด และหลอดราโพ เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลด้าน BCG และนโยบายลด ละ เลิกใช้พลาสติกแบบ Single-use ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการพัฒนากระบวนการหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และข้อกำหนดเฉพาะผลิตภัณฑ์ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งพิจารณาถึงเกณฑ์กำหนดด้านความปลอดภัย เช่น สารปนเปื้อน ความชื้นและจุลินทรีย์  คุณลักษณะที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น การรั่วซึม ความคงรูป มีกระบวนการผลิตที่เป็นไปตามเกณฑ์กำหนดสุขลักษณะอนามัย และมีการดำเนินงานตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน งาน Thailand LAB International 2023งาน Bio Asia Pacific 2023 และ งาน FutureCHEM INTERNATIONAL 2023  จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายน 2566  ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา 

Leave a Reply

Your email address will not be published.