“อนุทิน” เผยรัฐบาลมุ่งใช้เทคโนโลยีอวกาศลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับคนไทย
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2566 : นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. พร้อมด้วยนางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.กระทรวง อว. และดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA ให้การต้อนรับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในงาน Thailand Space Week 2023 “FOSTERING GLOBAL VALUE CHAIN” เชื่อมไทยสู่อุตสาหกรรมอวกาศโลก หรือ สัปดาห์อวกาศแห่งชาติ ประจำปี 2566 โดย นายอนุทิน ได้ให้เกียรติปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Connecting Thailand Global Community with New Space Economy” เชื่อมโยงประเทศไทยสู่ประชาคมโลกด้วยเศรษฐกิจอวกาศใหม่ ณ Plenary Hall 1 – 2 ชั้น 1 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายอนุทินฯ กล่าวว่า ทุกวันนี้สินค้าและบริการด้านอวกาศกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของมนุษย์ เราสามารถใช้ดาวเทียมนำทางในการค้นหาเส้นทางที่เร็วและสะดวกที่สุดในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เกษตรกรสามารถตรวจสอบสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเพาะปลูกที่ดีที่สุดผ่านดาวเทียมสำรวจโลก ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ทันท่วงทีจากอินเทอร์เน็ตดาวเทียม รวมทั้งการใช้ดาวเทียมโทรคมนาคมในการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลมากยิ่งขึ้น และที่กล่าวไปนั้นเป็นเพียงประโยชน์เพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่เราได้รับจากการพัฒนาบริการด้านอวกาศในปัจจุบัน
นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายซึ่งมุ่งเป้าหมายในเรื่องการขับเคลื่อนประเทศให้เดินไปข้างหน้า โดยหนึ่งในเสาหลักคือความมุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศไทยผ่านเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “อวกาศ” ซึ่งเป็นรากฐานของความพยายามในการนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนาอย่างไร้ขีดจำกัด
นอกจากนี้ รัฐบาลจะใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอวกาศเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลสำหรับประชาชนไทยทุกคนเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นไปที่การสร้างสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตที่ดีและยั่งยืน“ประเทศไทยได้รับความร่วมมือจากประเทศสำรวจอวกาศชั้นนำมากกว่า 25 ประเทศ โดยการเติบโตของประเทศไทยจะเชื่อมโยงกับการเติบโตของทุกประเทศ และความร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถกำหนดอนาคตที่ดีกว่าในด้านอวกาศและการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับประเทศไทย มนุษยชาติ และคนรุ่นต่อไป” นายอนุทินกล่าว