วว. ชูผลสำเร็จ “58 ปี” การดำเนินงาน ตอบโจทย์ประเทศด้วย วทน. ในทุกมิติ เสริมแกร่งเศรษฐกิจ/ผู้ประกอบการ ระบุก้าวอนาคตมุ่งพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ที่เชี่ยวชาญให้สำเร็จเป็นรูปธรรม – ใช้ประโยชน์ได้จริง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ฉลองครบรอบ “ 58 ปี ” การดำเนินงานองค์กร ชูความสำเร็จนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตอบโจทย์ประเทศในทุกมิติของการเสริมแกร่งเศรษฐกิจ/ผู้ประกอบการ เผยก้าวในอนาคตมุ่งพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ที่เชี่ยวชาญให้สำเร็จเป็นรูปธรรม สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงมากยิ่งขึ้น พร้อมขยายพื้นที่ดำเนินงานให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค
ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. มีทิศทางขับเคลื่อนการดำเนินงานมุ่งสร้างให้ องค์กรเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานวิจัยพัฒนา ที่มีผลกระทบสูงต่ออุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และลดความเหลื่อมล้ำ ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 วว. จะดำเนินงานครบรอบการสถาปนา 58 ปี โดยตลอดช่วงเวลาดำเนินงานของ วว. นั้น ได้สร้างสรรค์ผลงานวิจัยและพัฒนา ให้บริการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) แก่ประเทศในกรอบมิติ ภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs Startup พี่น้องเกษตรกร รวมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีผลงานในเชิงสังคมและเชิงพาณิชย์ สามารถตอบโจทย์เศรษฐกิจประเทศเป็นรูปธรรม เป็นที่ยอมรับของเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ตัวอย่างความสำเร็จการดำเนินงาน วทน. ของ วว. อาทิ การสนองตอบนโยบาย BCG ของรัฐบาล ประสบผลสำเร็จพัฒนา กระบวนการผลิตและถ่ายทอดเทคโนโลยีชีวภาพการใช้ประโยชน์จุลินทรีย์ในภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ นวัตกรรมน้ำตาลที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลให้สมดุล ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายในท้องตลาด มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 10 ล้านบาทต่อปี การพัฒนาสมุนไพรอัตลักษณ์ประจำถิ่น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันตรีผลา มีประสิทธิภาพดูแลสุขภาพเหงือก/ช่องปาก/ฟันแข็งแรง มีมูลค่าการตลาดประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี และต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผม พร้อมส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนผลิตสารสกัดสมุนไพรส่งให้ภาคอุตสาหกรรมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์คือ บริษัทไลอ้อนฯ อีกทั้งยังส่งเสริมสมุนไพรอัตลักษณ์อื่นๆ เช่น ใบหมี่ และมะไฟจีน เป็นต้น การพัฒนาไบโอเมทานอลจากวัสดุเหลือทิ้ง เพื่อต่อยอดสร้างโรงงานไบโอเมทานอลต้นแบบแห่งแรกของไทย ปัจจุบัน บริษัท BLCP นำผลงานนี้ไปขยายผลต่อยอดเชิงพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อลดนำเข้าเมทานอล 100% สารชีวภัณฑ์ ผลิตจากจุลินทรีย์สำหรับป้องกันกำจัดศัตรูพืช ปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม ไม่มีสารพิษตกค้าง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการนำเข้าสารเคมี ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตในจังหวัดภาคกลางตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และอยุธยา ส่งผลให้เกษตรกรลดต้นทุนได้ 172.5 ล้านบาท ลดนำเข้าสารเคมีเกษตรประมาณ 241.5 ล้านบาท การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากไม้ดอกไม้ประดับ นำร่องโครงการในพื้นที่จังหวัดเลย รวมกลุ่มผู้ประกอบการได้จำนวน 124 กลุ่มเป็นคลัสเตอร์ เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร คิดเป็นมูลค่าเศรษฐกิจ 90 ล้านบาทต่อปี พร้อมขยายพื้นที่ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ และนครราชสีมา สร้างแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรม ตลาดไม้ดอกไม้ประดับและผลิตภัณฑ์
ผู้ว่าการ วว. กล่าวต่อว่า วว. ยังเป็น Total Solution ให้ผู้ประกอบการทุกระดับ เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้บริการภาคอุตสาหกรรมมากกว่า 150,000 รายการต่อปี มีจำนวนลูกค้ามากกว่า 3,000 คน ช่วยลดค่าใช้จ่ายส่งตัวอย่างไปทดสอบต่างประเทศได้มากกว่า 50% นอกจากนั้น ประสบผลสำเร็จในการนำ วทน. เข้าไปตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนและประชาชน โดยร่วมกับพันธมิตรสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ สร้างความเข้มแข็ง สร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 300 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ได้นำเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้าไปแก้ไขปัญหา ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ประโยชน์ โดยเป็นเทคโนโลยีที่มีรูปแบบ เงื่อนไขการใช้งาน สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง ทั้งด้านต้นทุน ความซับซ้อนเทคโนโลยี ผลักดันให้ผู้ประกอบการนำไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงพาณิชย์และสังคม คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมมากกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี
จาก สถานการณ์วิกฤตแพร่ระบาดโควิด-19 วว. นำความเชี่ยวชาญด้าน วทน. เข้าไปช่วยลดผลกระทบ คือ ร่วมรับสมัครบุคลากรเพื่อแก้ปัญหาว่างงาน ในโครงการ อว. สร้างงานจำนวนกว่า 270 อัตรา บริการทดสอบและปรับปรุงระบบห้องความดันลบ ณ โรงพยาบาลศิริราช ออกบทเฉพาะกาลร่วมควบคุมป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในกิจกรรมการตรวจประเมินรับรองระบบบริหารจัดการตามมาตรฐานคุณภาพฯ บริการทดสอบหน้ากากอนามัยรองรับความต้องการภาคอุตสาหกรรมเทียบเท่ามาตรฐานต่างประเทศ สนับสนุนงานโรงพยาบาลสนามของกระทรวง อว. มูลค่า 3 แสนบาท นอกจากนี้ยังแจกผลงานวิจัยเจลแอลกอฮอล์ส่งไปช่วยพี่เหลือน้องชาวจีนและแจกให้กับพี่น้องชาวไทย กว่า 4,000 หลอด พร้อมแนะนำและถ่ายทอดความรู้ วทน. ที่สามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักได้
“ก้าวในอนาคตของ วว. นั้น ยังยึดมั่น มุ่งเน้นนำ วทน. เป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญเพื่อการพัฒนาประเทศ มุ่งดำเนินงานสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม อย่างครบวงจร พัฒนาวิสาหกิจในทุกระดับ ทั้งในส่วนกลางและพื้นที่ ด้วยนวัตกรรมพร้อมใช้ ส่งเสริมให้ วทน. เป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศ พร้อมสนองนโยบายรัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วย วทน. ก้าวสู่ปีที่ 59 ของ วว. นั้น จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะผลิตผลงานตอบโจทย์สังคม ประเทศชาติ พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ที่มีความเชี่ยวชาญให้สำเร็จเป็นรูปธรรมและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงมากยิ่งขึ้น ครอบคลุมพื้นที่กลุ่มเป้าหมายและกระจายไปสู่กลุ่มอื่นๆ ดังที่ วว. ประสบผลสำเร็จมาแล้วกว่า 58 ปี” ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต กล่าวสรุป
ขอเชิญชวนผู้สนใจ ผู้ประกอบการ รับบริการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก วว. ได้ที่ โทร. 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9362 อีเมล tistr@tistr.or.th www.tistr.or.th Line@TISTR Instagram : tistr_ ig