วว. ชูประเด็นสร้างเครือข่ายความร่วมมือทำงานวิจัยระดับนานาชาติ เพื่อแก้ปัญหา เผชิญความท้าทายของโลก ในการประชุม Global Summit of Research Institute Leaders ครั้งที่ 11 ณ ประเทศญี่ปุ่น
ศ. (วิจัย) ดร. ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แสดงวิสัยทัศน์หัวข้อ Diversity of funding ในการประชุม Global Summit of Research Institute Leaders (RIL) ครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยได้ชูประเด็นเรื่องการทำงานร่วมกันขององค์กรวิจัยระดับนานาชาติว่าด้วยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทำงานวิจัยร่วมกันระดับนานาชาติ (International cooperation) ด้วยการ sharing นักวิจัยในภูมิภาคต่างๆ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา ซึ่งเป็นความท้าทายของโลก พร้อมเน้นย้ำการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เกิดการต่อยอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ
โดย วว. ได้ยกตัวอย่างความสำเร็จในการดำเนิน โครงการ SOILGUARD ที่ วว ได้เข้าร่วมโครงการ กับ สถาบันวิจัย Leitat ประเทศ สเปน และอีก 25 หน่วยงาน ในประเทศกลุ่มยุโรป ละตินอเมริกาและแอฟริกา เพื่อเป็นต้นแบบด้านการจัดการทรัพยากรดินอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณภายใต้กรอบ Horizon 2020 จากคณะกรรมาธิการยุโรป
โอกาสนี้ ผู้ว่าการ วว. ยังได้นำเสนอให้ผู้นำของหน่วยงานวิจัยทราบว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้นำนโยบาย BCG ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม โดยหน่วยงานวิจัยในประเทศมีบทบาทสำคัญในการนำแนวทางระบบเศรษฐกิจ BCG ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืน
อนึ่ง การประชุม Global Summit of Research Institute Leaders (RIL) เป็นการประชุมผู้นำหน่วยงานวิจัยระดับแนวหน้าจากทั่วทุกมุมโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของการประชุม Science and Technology in Society forum (STS forum) ซึ่งในปีนี้ ได้รับเกียรติจาก H.E. Mr. KISHIDA Fumio นายกรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่น และ Mr. Hiroshi Komiyama, Chairman, Science and Technology in Society forum (STS forum); Chairman, Mitsubishi Research Institute, Inc., Japan เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม โดยมีผู้นำของหน่วยงานวิจัยระดับนานาชาติจาก 14 ประเทศ เข้าร่วมการประชุม เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดา สวีเดน สิงคโปร์ ฝรั่งเศส เยอรมนี เกาหลีใต้ และประเทศไทย