นักวิจัย มจธ.พัฒนาเครื่องผลิตสาหร่ายสไปรูลิน่า ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ เลี้ยงเอง กินเองได้ที่บ้าน 
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/02/รศ.รัตนา-คนซ้าย-ดร.ชีวิน-คนที่สอง-และทีมพัฒนาเครื่องผลิตสาหร่ายเกลียวทองระดับครัวเรือน.jpg)
จากจุดเด่นของสาหร่ายเกลียวทอง หรือสาหร่ายสไปรูลิน่า (Spirulina) ที่มีกรดอะมิโนจำเป็น (essential amino acid) ครบทั้ง 9 ชนิด ที่ร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมไปใช้ในร่างกายได้ดีใกล้เคียงกับกรดอะมิโนจากถั่วหลืองแล้ว สาหร่ายชนิดนี้ยังมีโปรตีนสูงถึงร้อยละ 55-70 และสารมูลค่าสูงจำพวกกรดไขมันจำเป็นอีกหลายชนิด เช่น กรดลิโนเลอิก และกรดแกมมาลิโนเลนิค (GLA) รวมทั้งมีสารที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น ไฟโคไซยานิน และแคโรทีนอยด์ ทำให้ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงสาหร่ายสไปรูลิน่าในระดับอุตสาหกรรมเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผสมในเครื่องสำอางจำหน่ายในท้องตลาดกันอย่างแพร่หลาย
แต่ทราบหรือไม่ว่า กระบวนการนำสาหร่ายไปทำแห้งด้วยความร้อนจะทำให้สารสำคัญที่มีคุณค่าทางโภชนาการมีปริมาณและคุณภาพลดลง หรือสูญหายไป โดยเฉพาะสารไฟโคไซยานิน ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ และช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น มีปริมาณลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้น “การรับประทานสาหร่ายสไปรูลิน่า” แบบสด ๆ จะทำให้ผู้บริโภคได้รับคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนมากกว่าการรับประทานสาหร่ายแห้งอัดเม็ดหรือแคปซูล
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/02/ดร.ชีวิน-อรรถสาสน์-คนซ้าย-ผู้ออกแบบเครื่อง-1.jpg)
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/02/ด้านบนสามารถเปิดเพื่อเติมสาหร่ายเกลียวทอง-และอาหารได้สะดวก.jpg)
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพสาหร่าย (Algal Biotechnology) สถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ (สรบ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จึงนำองค์ความรู้เกี่ยวกับสาหร่ายสไปรูลิน่าที่ทำวิจัยมากว่า 30 ปี ทั้งด้านการพัฒนาเทคนิคการคัดเลือกและการพัฒนาสายพันธุ์ และพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงสาหร่ายเพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่ผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพตรงความต้องการของตลาด และให้ผลผลิตชีวมวลสาหร่ายสูง การศึกษาด้าน OMICS: genomics transcriptomics proteomics metabolomics systems biology และ bioinformatics อีกทั้งการพัฒนาเทคนิคการสกัดและการแยกสารมูลค่าสูงจากสาหร่ายทั้งไฟโคไซยานิน ลิปิด และโพลีแซคคาไรด์ รวมทั้งการพัฒนาด้าน Bioactive-peptide เพื่อตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุของประเทศ ล่าสุดกลุ่มวิจัยได้พัฒนาเครื่องผลิตสาหร่ายระดับครัวเรือน ที่เหมาะกับคนทั่วไปที่ต้องการบริโภคแบบสดเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถเลี้ยงสาหร่ายสไปรูลิน่าไว้บริโภคได้เอง โดยนำไปผสมอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มได้ตามต้องการ
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/02/รศ.รัตนา-คนซ้าย-ดร.ชีวิน-คนที่สอง-และทีมพัฒนาเครื่องผลิตสาหร่ายเกลียวทองระดับครัวเรือน-1.jpg)
รศ.รัตนา ชัยกล้าหาญ นักวิจัยสังกัดกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพสาหร่าย สรบ. มจธ. กล่าวว่า เครื่องเลี้ยงสาหร่ายที่ได้รับการออกแบบโดย ดร.ชีวิน อรรถสาสน์ สังกัดห้องปฏิบัติการวิจัย Aquaculture Engineering (ACE) สรบ. มีขนาดที่สามารถตั้งไว้ในบ้านหรือห้องพักได้ ส่วนประกอบของเครื่อง คือ โหลเลี้ยงสาหร่าย (ความจุน้ำ 10 ลิตร) ที่ภายในติดตั้งหลอด LED พร้อมทั้งมีระบบปั๊มอากาศ ด้านบนเป็นช่องเปิดสำหรับนำสาหร่ายออกมารับประทาน รวมถึงไว้เปิดสำหรับเติมน้ำและปุ๋ย
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/02/บ่อเลี้ยงสาหร่ายของศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวภาพสาหร่าย.jpg)
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/02/ภาพต้นแบบเครื่องเพาะเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทองระดับครัวเรือน-ที่ออกแบบโดย-ดร.ชีวิน-1024x787.jpg)
รศ.รัตนา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการนำข้อมูลที่จำเป็นทั้งปริมาณสารอาหาร ความเข้มข้นเซลล์สาหร่าย ความเข้มแสง และการกวนด้วยปั๊มให้อากาศที่เหมาะสม มาใช้ในการออกแบบเครื่องนี้แล้ว ทางกลุ่มวิจัยจัดทำคู่มือการเลี้ยง การดูแล และข้อควรสังเกตในการเลี้ยง ผู้บริโภคสามารถเลี้ยงและเก็บผลผลิตสาหร่ายที่สะอาดและมีคุณภาพได้เป็นประจำทุกวัน ซึ่งการตักสาหร่ายในโหลขึ้นมาวันละ 1.5 ลิตร เมื่อผ่านการล้างปุ๋ยออกจะได้สาหร่ายสดประมาณ 10 กรัมเปียก หรือ 1 กรัมแห้ง ที่อุดมด้วยโปรตีน กรดไขมันโอเมก้า 6 ที่มีความสำคัญต่อร่างกาย รวมถึงได้รับสารอื่นๆ อีกหลายชนิด โดยเฉพาะไฟโคไซยานิน สำหรับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงนั้น รศ.รัตนา กล่าวว่า เครื่องต้นแบบนี้ มีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท มีค่าหัวเชื้อสาหร่ายประมาณลิตรละ 1,000 บาท และค่าอาหารลิตรละ 1.5 บาท ค่าไฟฟ้าประมาณ 1.31 บาทต่อกรัมสาหร่าย โดยหากมีความร่วมมือในการพัฒนาและต่อยอดสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์จริง ก็จะเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรม ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถมีเมนูสุขภาพที่เลี้ยงได้ด้วยตัวเองในราคาจับต้องได้
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/02/ออกแบบให้มีขนาดกระทัดรัด-สะดวกต่อการเลี้ยงและนำออกมาบริโภค-1-768x1024.jpg)
โดยผู้ประกอบการ หรือนักลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพสาหร่าย สถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ (สรบ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ. บางขุนเทียน) โทร. 02-470-7469, 02-470-7471