วว. เตรียมยกทัพโชว์งานวิจัย บริการ วทน. เสริมแกร่งผู้ประกอบการไทย ในงาน ProPak Asia & Fi Asia 2023
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/03/ผู้ว่าการ-วว.-ร่วมแถลงข่าวการจัดงานกับพันธมิตร-1024x725.jpg)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) พร้อมนำผลงานวิจัยและงานบริการอุตสาหกกรรม ผลสำเร็จจากการพัฒนาต่อยอดโดยใช้องค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) จัดแสดงโชว์ในงาน ProPak Asia 2023 นิทรรศการแสดงสินค้าและนวัตกรรมในกระบวนการผลิต แปรรูป และบรรจุภัณฑ์ ครั้งที่ 30 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14–17 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค และงาน Fi Asia 2023 นิทรรศการแสดงสินค้า เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านส่วนผสมอาหารแห่งเอเชีย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20–22 กันยายน 2566 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดโดย อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทยและหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชน อาทิ วว. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย เป็นต้น โดยมีจุดประสงค์ให้เกิดการสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมอาหารทั้ง Eco System ของประเทศไทย ให้สามารถแข่งขันและเป็นผู้นำของตลาดโลกได้ ทั้งในแง่กระบวนการผลิต (Processing) รวมถึงการบรรจุภัณฑ์ (Packaging) เพื่อผลักดันให้ไทยกลายเป็น Hub แห่งนวัตกรรมใหม่ๆ ในกระบวนการผลิต
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/03/2732023_230327_7-1024x1022.jpg)
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวในฐานะที่ วว. ร่วมเป็นพันธมิตรในการจัดงาน ProPak Asia 2023 และFi Asia 2023 ว่า มุ่งเสนอผลงาน วว. ที่มีส่วนช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ MSMEs , SMEs ในเรื่อง Processing และ Packaging ทั้งด้านองค์ความรู้ บุคลากร เครื่องมือที่สามารถช่วยผู้ประกอบการพัฒนากระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานทั้งในประเทศและระดับสากล ได้รับการยอมรับ สามารถแข่งขันได้กับนานาประเทศ ผ่านการดำเนินงานของศูนย์เชี่ยวชาญต่างๆ รวมถึงการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ที่พร้อมบริการด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยงานวิจัยและยกระดับการผลิต หรือทดลองผลิตเพื่อทดลองตลาด ก่อนยกระดับสู่เชิงพาณิชย์ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการอย่างยั่งยืน โดย วว. พร้อมให้บริการด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การเพิ่มมูลค่าหรือความต้องการในการแก้ไขปัญหา ซึ่งมีรูปแบบและขั้นตอนการดำเนินงานที่ครอบคลุมตั้งแต่ การรับฟังแนวความคิดของผู้ประกอบการ (Idea) การวิจัยและพัฒนา การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบและแก้ไขปัญหา (Prototype & Solution) การบริการวิเคราะห์ ทดสอบ สอบเทียบ การขยายขนาดการผลิตจากห้องทดลองสู่ระดับการผลิตจริง (Scale Up) การพัฒนาระบบบริหารจัดการการผลิตสินค้า (Product & Management System) ตลอดจนการพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ (Commercialization) ทั้งการส่งเสริมด้านการตลาดและเชื่อมโยงด้านการเงิน เป็นต้น
“…ปัจจุบันงานวิจัยไม่ได้เป็นเพียงการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือองค์ความรู้ใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ผลิตภัณฑ์แทบทุกประเภทมีบรรจุภัณฑ์เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีการใช้วัสดุและเทคโนโลยีการผลิตและการบรรจุที่ถูกต้องเหมาะสม จะสามารถช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ให้นานขึ้น สามารถรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ใกล้เคียงกับเมื่อเริ่มต้นผลิต รวมทั้งมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ดังนั้น งานวิจัยไม่ว่าจะเป็นในส่วนของวัสดุบรรจุภัณฑ์ เทคนิคและเทคโนโลยีการผลิตและการแปรรูป เทคโนโลยีการบรรจุ บรรจุภัณฑ์อาหารที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติมตามความต้องการการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ภายใน เป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อการบริโภคหรือทำหน้าที่เป็นภาชนะไปด้วยในตัว ต้องผ่านความร้อนจากเตาไมโครเวฟ หรือสามารถทนความร้อนของน้ำร้อนได้ เป็นต้น ล้วนเป็นผลจากงานวิจัยที่มีการนำมาใช้งานให้เหมาะสมกับ trend และวิถีชีวิตในปัจจุบันของเราดังนั้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ หากจะให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะต้องมีการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน…” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/03/วว.-พัฒนาสสูตรอาหารพัฒนาบรรจุภัณฑ์-1024x682.jpg)
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/03/วว.-วิจัยพัฒนาบรรจุภัณฑ์-1024x682.jpg)
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/03/ตัวอย่างผลงาน-วว.-พัฒนาผลิตภัณฑ์-บรรจุภัณฑ์-1024x682.jpg)
![](https://lifeandsciencenews.com/wp-content/uploads/2023/03/ดร.ชุติมา-เอี่ยมโชติชวลิต-ผู้ว่าการ-วว.-1-1024x682.jpg)
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวต่อว่า ในงาน ProPak Asia 2023 และ Fi Asia 2023 วว. ยังจะมีการนำเสนอValue Chain และการเป็น Total Solution ในการช่วยผู้ประกอบการให้เดินหน้าต่อไปในอุตสาหกรรมได้อย่างเข้มแข็ง โดยปัจจุบัน วว. นำเทคโนโลยีดิจิทัล “วว. JUMP” เข้ามาใช้ในการให้บริการลูกค้า ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระบบบริการลูกค้าออนไลน์ ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์ลูกค้า และลดขั้นตอนดำเนินงาน เป็นการปรับเปลี่ยนการดำเนินเพื่อเป็นองค์กรดิจิทัล (Smart Organization) รวมถึงการอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วในการให้บริการแก่ลูกค้าที่มาติดต่อประสานงาน ทั้งนี้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึง “วว. JUMP” ผ่านเว็บไซต์ วว. www.tistr.or.th (https://tistrservices.tistr.or.th/) หรือค้นหาผ่าน Google โดยพิมพ์คำว่า “วว. JUMP” สามารถเข้าถึงระบบงานบริการออนไลน์ของ วว. ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งค้นหางานบริการต่างๆ ของ วว. หรือ พิมพ์ข้อความที่สงสัย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตอบคำถามให้แก่ทุกท่าน จากการที่ลูกค้าส่งโจทย์และรับการแก้ไขจาก วว.
“…วว. พร้อมเป็นหุ้นส่วนความสำเร็จและเดินเคียงข้างผู้ประกอบการ ในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และงานบริการ ให้สามารถแข่งขันได้ทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมขับเคลื่อนงานในทุกมิติ สร้างองค์ความรู้ด้าน วทน. ที่เหมาะสมกับการนำไปใช้และบริบทของพื้นที่ สร้างระบบการดำเนินงานที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งสร้างการเชื่อมโยงและขยายเครือข่ายทางธุรกิจทั้งกับหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน ดังจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานของ วว. ในปี 2565 ก่อให้มูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม จำนวน 16,770.7416 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17.69 เท่า เมื่อเทียบกับงบประมาณแผ่นดินที่ได้รับการจัดสรร
ปัจจุบัน วว. มีทิศทางการวิจัยด้านเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น มีความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมในหลากหลายสาขา ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ส่งเสริมสนับสนุนและเพิ่มความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ โดย วว. ให้บริการแก่ภาคอุตสาหกรรมมากกว่า 200,000 รายการต่อปี มีจำนวนลูกค้ามากกว่า 10,000 ราย ช่วยผู้ประกอบการลดค่าใช้จ่ายในการส่งตัวอย่างไปทดสอบต่างประเทศได้มากกว่า 50% ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งให้บริการวิจัยและพัฒนาแก่ OTOP วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ MSMEs , SMEs, Startup ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มมูลค่า ช่วยแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นที่ประจักษ์ทั้งในและต่างประเทศ…” ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต กล่าวสรุปในตอนท้าย