สุดตื้นตัน! พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เยือนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พร้อมหวนนึกถึงความหลัง คืนสู่เหย้ารั้วสามพราน แม่บ้านโรงครัวน้ำตาคลอ ขอกอดให้หายคิดถึง
(21 กุมภาพันธ์ 2567) ห้องประชุมเตมียาเวส โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม : พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ การบูรณาการความร่วมมือแบบไร้รอยต่อเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในการประชุมทางวิชาการเพื่อเผยแพร่และขยายผลการดำเนินงาน ศูนย์กลางองค์ความรู้ต้นแบบด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือ Pilot Hub of Knowledge on prevention and solution of drug problems : PSDP-HUB โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และ พลตำรวจโท ดร. เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และศาสตราจารย์ พลตำรวจตรีหญิง ดร.พัชรา สินลอยมา หัวหน้าศูนย์กลางองค์ความรู้ต้นแบบด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และ คณะ ร่วมให้การต้อนรับ โดยผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยผู้บริหารและผู้แทนจากกระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข, กรมคุมประพฤติ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ปปส.) สำนักกิจการยุติธรรม, สถาบันนิติวิทยาศาสตร์, ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา, ผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระยอง, อัยการ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, ผู้แทนในหน่วยระดับท้องถิ่น, นักวิชาการ และผู้แทนหน่วยงานภาคเอกชน มีนักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และผู้ที่สนใจเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีการถ่ายทอดสัญญาณสด ผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์และอินเทอร์เน็ตด้วย ทั้งนี้ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นหน่วยงานระดับกองบัญชาการ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา มีภารกิจหลักในการฝึกอบรม ให้การศึกษา อบรมหล่อหลอมนักเรียนนายร้อยตำรวจให้มีคุณลักษณะเหมาะสมที่จะเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ”การบูรณาการความร่วมมือแบบไร้รอยต่อเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด” โดยระบุว่า หัวข้อปาฐกถานั้นเชื่อมโยงกระทรวงยุติธรรมกับบทบาทของการยึดหลักนิติธรรมในการอำนวยความยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ผาสุขแก่ประชาชน เช่นเดียวกับบทบาทของตำรวจ “พวกเราจะไปเป็นพนักงานสอบสวน จะต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือของกฎหมาย แต่ต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะที่ศิษย์เก่าที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้ว่า กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่สูงส่ง เพราะความทรงจำที่ฝั่งใจ คือ โรงเรียนนายร้อยตำรวจเป็นสถานที่กล่อมเกลาจิตใจ ปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่างๆ ทำให้ตนมาอยู่ในสังคมได้จนถึงวันนี้ แม้ในช่วงรับราชการตำรวจจะโอนย้ายไปเป็นข้าราชพลเรือนในกระทรวงยุติธรรม ทั้งรองอธิบดีดีเอสไอ, รองเลขาฯปปส., อธิบดีดีเอสไอ ในระหว่างทำหน้าที่ของตำรวจในบทบาทที่สำคัญก็ตาม สำหรับบทบาทของกระทรวงยุติธรรมกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดว่า ในประเทศไทย เรามีกฎหมายที่ดี ทั้งในด้านการป้องกัน การปราบปราม การบำบัดรักษา และการฟื้นฟู ซึ่งแต่เดิมคำว่า “ยาเสพติด” หมายรวมถึงผู้เสพกับผู้ค้า แต่ปัจจุบันการจับกุม แต่ละปีไม่ต่ำกว่านับร้อยล้านเม็ด เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว มีการทำสงครามยาเสพติด แต่สิ่งที่ต้องสูญเสีย คือ ชีวิต เสรีภาพ เกิดการพลัดพรากของคนในครอบครัวให้ต้องไปอยู่ในเรือนจำ เป็นหนึ่งโจทย์ที่ต้องศึกษาวิจัย ทั้งนี้ แนวคิดผู้เสพ แยกออกจากผู้ป่วยมีมานานกว่า 20 ปี กระทั่งปี 2564 องค์การอนามัยโลก(ยูเอ็น) ให้ความเห็นว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดควรเป็นเรื่องของการควบคุม และผู้เสพจึงกลายเป็นผู้ป่วย ขณะที่การเชิงฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ในส่วนการคุมขังผู้ต้องหาในเรือนจำที่มีจำนวนกว่า 2 แสนคนส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติดถึง 80 % ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และในส่วนของผู้เสพที่ถูกจับกุมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย กระทั่งศาลมีคำตัดสินให้รอลงอาญา พร้อมสั่งให้คุมประพฤติอีกว่า 4 แสนคน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ในจำนวน 4 แสนคน จะต้องสมัครใจเข้ารับการบำบัด
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ยังได้เล่าถึงการเข้าเยี่ยมชมวิทยาลัยตำรวจยูนนาน(Yunnan Police Officer Academy) เมื่อครั้งเดินทางไปเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปลายเดือน มกราคมที่ผ่านมาว่า การเรียนตำรวจที่ยูนนานมีการศึกษาด้านการสืบสวน สอบสวน รวมถึงการรวบรวมข้อมูลของยาเสพติดแต่ละประเภท ทั้งยังมีการประสานความร่วมมือในการสกัดการลำเลียงสารตั้งต้นที่จะนำมาผลิตอีกด้วย จึงเสนอความเห็นไปยังโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถึงการแทรกเนื้อหาเฉพาะทางด้านยาเสพติด หรือการลงพื้นที่ เพื่อดูงานในชุมชนที่ความเข้มแข็ง เพื่อเพิ่มประสบการณ์ด้านการแก้ปัญหายาเสพติดให้กับนักเรียนนายร้อยตำรวจ ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัด ยินดีในการนำผลการวิจัยศึกษา ของPSDP-HUB เพื่อนำองค์ความรู้ต้นแบบด้านการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้เยี่ยมชมศูนย์ข้อมูลอาชญากรรมและยาเสพติด (Crime & Narcotics Information Center) อาคารคณะตำรวจศาสตร์ , พิพิธภัณฑ์ตำรวจ (The Police Museum) , ห้องสมุดโรงเรียนนายร้อยตำรวจ, ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ อนุสรณ์ 122 ปี โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และลานปาณะดิษ รวมทั้งเยี่ยมชมการพัฒนาพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ภายในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาที่อาคารโภชนาคาร โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปรากฏว่า กลุ่มผู้ปฏิบัติงานในโรงครัว โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ต่างดีใจ และพากันเข้ามาสวมกอดพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เป็นจำนวนมาก โดยคุณป้าเอม กล่าวว่า “รู้สึกดีใจที่ได้พบ พันตำรวจเอก ทวี อีกครั้ง คิดถึงมาก แต่ปกติทุกวันนี้ได้เห็นแต่เฉพาะในจอโทรทัศน์ และในสื่อมวลชนเท่านั้น ไม่คิดไม่ฝันว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง จะเดินทางกลับมาเยี่ยมถึงโรงครัว โดยกลุ่มคุณป้าเอม และแม่บ้าน โรงครัว รู้จักกับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง มานานมากแล้ว และขอให้กำลังใจ ให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” ทั้งนี้ ต่างพากันผลัดกันสวมกอด และถ่ายรูปคู่ด้วยเป็นจำนวนมาก โดยต่างพากันเดินมาส่ง พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ กลับขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับกระทรวงยุติธรรมในเวลา 15.00 น.