Thursday, September 11, 2025
Latest:
ประชาสัมพันธ์ยานยนต์/EVวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี-วิจัย-นวัตกรรม

สวทช. เปิดตัว “ต้นแบบรถขุดตักดัดแปลงทำลายทุ่นระเบิด PMN-2 สำหรับภูมิประเทศซับซ้อนสูงในพื้นที่ชายแดน”

(วันที่ 11 กันยายน 2568) ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร: คณะนักศึกษา วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 67 หรือ วปอ.67 ได้กระทำพิธีส่งมอบ “รถขุดตักดัดแปลงทำลายทุ่นระเบิด PMN-2 สำหรับภูมิประเทศซับซ้อนสูงในพื้นที่ชายแดน” ให้แก่ พล.ท.สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง กองทัพบก เพื่อนำไปใช้ในภารกิจการป้องกันประเทศ

พลตรี เสด็จ อาคะจักร ประธานนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 67 กล่าวว่า “ในห้วงที่ผ่านมา ในสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ทหารไทยมีหน้าที่ปกป้อง ดูแลประเทศชาติในพื้นที่ชายแดน ต้องประสบเหตุการณ์เหยียบกับระเบิด PMN-2 ที่ฝ่ายกัมพูชา ลักลอบนำมาวางไว้ตามภูมิประเทศ โดยเฉพาะเส้นทางที่ทหารไทยใช้ในการลาดตระเวน ทำให้พี่น้องทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ ต้องบาดเจ็บ และสูญเสียอวัยวะไปจำนวนหลายนาย นักศึกษา วปอ.67 จึงระดมความคิดโดยใช้ศักยภาพและเครือข่ายของนักศึกษา หารือร่วมกับ กรมการทหารช่าง (แผนกสงครามทุ่นระเบิด) เพื่อหาแนวทางที่จะรักษาและพิทักษ์กำลังรบของไทยต่อปัญหาดังกล่าว โดยได้ร่วมมือกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการออกแบบจัดทำ รถขุดตักดัดแปลงทำลายทุ่นระเบิด PMN-2 เพื่อให้เป็นรถต้นแบบ ที่สามารถเข้าไปในภูมิประเทศ หรือเส้นทางขนาดเล็ก และสามารถกดทำลายวัตถุระเบิดชนิด PMN-2 ได้ เพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะให้หน่วยทหารลาดตระเวนขนาดเล็กสามารถนำเข้าไปใช้งานในพื้นที่ต้องสงสัยหรือพื้นที่เสี่ยงภัยต่อทุ่นระเบิด PMN-2 อันจะทำให้ลดอันตรายที่จะเกิดขึ้น และเป็นการพิทักษ์ประชาชนและกำลังพลของกองทัพไทย วันนี้คณะนักศึกษา วปอ.67และ สวทช. ขอมอบรถต้นแบบดังกล่าวให้กับกรมการทหารช่าง เพื่อนำไปใช้งานในพื้นที่ต่อไป สำหรับ Blue Print หรือแบบพิมพ์เขียวในการจัดทำ สวทช. ยินดีให้การสนับสนุนหากต้องการนำไปผลิตและพัฒนาเพิ่มเติมต่อไป”

ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. และในฐานะนักศึกษา วปอ.67 กล่าวเสริมว่า “สวทช. โดย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ภายใต้การสนับสนุนจากนักศึกษา วปอ. 67 ได้พัฒนาต้นแบบเครื่องมือทำลายทุ่นระเบิดฯ โดยมี ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีระบบรางและการขนส่งสมัยใหม่ (RMT) เป็นหัวหน้าทีมในการออกแบบกระบวนการทางวิศวกรรมขั้นสูงและเทคโนโลยีวัสดุ สำหรับใช้ในการทำลายทุ่นระเบิด PMN-2 การพัฒนานวัตกรรมเริ่มต้นจากแนวคิดการประยุกต์ใช้รถขุดดินขนาดเล็ก (ขนาดประมาณ 3.5 ตัน) ที่มีความคล่องตัวในการเคลื่อนในภูมิประเทศลาดชันและทุรกันดาร ใช้ทักษะในการขับขี่พื้นฐาน และมีความแข็งแรงทนทานเพียงพอ มาติดตั้งอุปกรณ์ทำลายทุ่นระเบิด พร้อมติดตั้งชุดเกราะเสริมความปลอดภัยให้ห้องคนขับ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ปฏิบัติงานควบคุมไม่ได้รับอันตราย การออกแบบทางวิศวกรรมขั้นสูงที่ผนวกรวมการออกแบบ 3 มิติ (3D Design) และการจำลองบนคอมพิวเตอร์ (Computer Simulation) ถูกใช้ในขั้นตอนการออกแบบชิ้นส่วนทางวิศวกรรม เพื่อให้มั่นใจถึงความแม่นยำในขนาดมิติในการผลิตและใช้งาน แข็งแรงเพียงพอจากแรงดันระเบิดนอกจากนี้ ได้มีการเรียนรู้ถึงพฤติกรรมแรงดันจากการระเบิดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับมนุษย์ด้วยการจำลองทางคอมพิวเตอร์ การเลือกใช้วัสดุความแข็งแรงเป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่คณะวิจัยของเอ็มเทค สวทช. มีประสบการณ์และคลุกคลีกับวัสดุกลุ่มนี้ยาวนาน การพัฒนาชุดเกราะเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงานควบคุม จึงได้เลือกเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงที่มีค่าความเค้น ณ จุดคราก ไม่ต่ำกว่า 700 MPa (S700 Structural Steel) ความหนา 12 มม.

ชุดหัวกดทำลายทุ่นระเบิด (Landmine Punching Destroyer) ได้ออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขและสภาวะการณ์ในการทำลายทุ่นระเบิด โดย“ก้านกด” ถูกติดตั้งให้มีระยะความสูงห่างจากพื้นดินที่เหมาะสมเพื่อช่วยการระบายของแรงดันจากการระเบิดอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะลดโอกาสการเกิดความเสียหายของชิ้นส่วน วัสดุของก้านกดเป็นเหล็กกล้าปานกลางผ่านกระบวนการอบชุบทางความร้อนเพื่อให้มีความแข็งแรงเพียงพอ (Yield Strength 720 MPa) ทำเป็นแท่งเกลียว (Stud Bolt) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 28.5 มม. ทำให้สะดวกต่อการถอดเปลี่ยนหรือปรับปรุงแก้ไขหากเกิดการชำรุดในระหว่างปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน การพัฒนาต้นแบบฯ ได้แล้วเสร็จในระยะเวลาอันสั้นเพียง 1 เดือน และพร้อมที่จะส่งมอบให้กับกรมการทหารช่าง กองทัพบก เพื่อนำไปทดสอบและประเมินผลในสถานการณ์จริง การนำไปใช้จริงนี้จะช่วยให้ทีมวิจัยสามารถรวบรวมข้อมูลและข้อเสนอแนะจากผู้ใช้งาน เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาในรุ่นต่อไป”

นวัตกรรมนี้แสดงให้เห็นว่า สวทช. ไม่ได้ทำงานอยู่แค่ในห้องทดลอง แต่ยังนำงานวิจัยมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมของประเทศ การพัฒนาเครื่องมือที่ผลิตโดยคนไทยเพื่อความมั่นคงของชาตินับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และเป็นการคืนความปลอดภัยให้กับชีวิตและผืนดินของประชาชนตามแนวชายแดน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *