รางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น นักวิจัยโลหิตวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล คว้ารางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ประจำปี 2565

ศ.ดร.นพ.วิปร วิประกษิต อาจารย์ประจำสาขาโลหิตวิทยาและอองโคโลยี มหาวิทยาลัยมหิดล “ผู้คิดค้นและ พัฒนาแนวทางในการวินิจฉัยโรคทางโลหิตวิทยาด้วยเทคโนโลยีจีโนมิกส์” คว้ารางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ประจำปี 2565 รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวผู้ได้รับรางวัล นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 40 ภายในงานได้รับ เกียรติจาก ศ.ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขึ้นกล่าวแสดงความยินดีและมอบโล่ให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัล โดยมี ศ.ดร. ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ศ.ดร. จำรัส ลิ้มตระกูล ประธานคณะกรรมการรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น และผู้ที่ได้รับรางวัลเข้าร่วมงานแถลงข่าว

ศ.ดร. จำรัส ลิ้มตระกูล ประธานคณะกรรมการรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น กล่าวว่า วิทยาศาสตร์ ถือเป็น เครื่องมืออันทรงพลังในการพัฒนาประเทศ และหากมองสถานะของประเทศไทยในเวทีโลก จะช่วยให้เราทราบว่า มีสิ่งใดที่เราควรทำเพื่อขยับสถานะของประเทศให้สูงขึ้น โดย IMD World Competitiveness Center ได้จัดอันดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่าง ๆ ใน 63 ประเทศทั่วโลกประจำปี 2555 พบว่า ประเทศไทยอยู่ใน อันดับที่ 33 ขยับลงมา 5 อันดับจากปี 2564 ในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์อยู่อันดับที่ 38 เท่าเดิม และ การศึกษาอยู่อันดับที่ 53 ดีขึ้น 3 อันดับ เมื่อมองไปที่วิทยาศาสตร์แล้วพิจารณาเฉพาะงานวิจัยที่มีคุณภาพดีเด่น (High Quality & High Impact) นอกนี้ จากการจัดอันดับของ Nature Index ยังพบว่าขีดความสามารถทางด้าน วิทยาศาสตร์ของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 40 ของโลก จาก 115 ประเทศที่มีผลงานวิจัยกลุ่มดีเด่นและเป็นอันดับ ที่ 9 ในเขต Asia Pacific จำนวน 28 ประเทศ และเมื่อพิจารณาในกลุ่มสมาชิก ASEAN 10 ประเทศนั้นพบว่า อันดับ ที่ 1 คือประเทศสิงคโปร์ ส่วนประเทศไทยเป็นอันดับที่ 2 ตามด้วยประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย

“สำหรับงานวิจัยนั้น เราต้องมุ่งเน้นพัฒนางานวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research) ที่ตอบสนองความ ต้องการของประเทศและสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปัจจุบันในด้านต่าง ๆ อาทิ Energy and ๆ Environment, Biotechnologies, Advanced Functional Materials, ua Advanced Digital Technologies เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เราจำเป็นต้องสร้างนักวิจัยที่มีศักยภาพ เพื่อให้เป็นหัวรถจักรชั้นดีใน การขับเคลื่อนประเทศ อีกทั้งเป็นการเพิ่มทุนทางนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) เคลื่อนเข้าสู่เวทีโลกอย่างสง่างาม ยกระดับประเทศไทยให้ก้าวไปสู่การพัฒนาแบบก้าว กระโดด เช่นเดียวกับประเทศชั้นนำในเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ สิงคโปร์ ดังนั้นประเทศไทยจำเป็นต้องส่งเสริม และสร้างองค์ประกอบด้านต่าง ๆ ให้พร้อมเพรียง ได้แก่ 1. ส่งเสริมความเป็นเลิศในสาขาวิจัยที่สร้างศักยภาพให้กับ ประเทศ 2. เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม 3. สนับสนุนนักวิจัยและผู้นำกลุ่มนักวิจัยขั้นแนวหน้า และ 4. สนับสนุนให้เกิดการลงทุนด้านการวิจัย เพื่อเร่งสร้างนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ฯลฯ ที่มีคุณภาพให้เพียงพอต่อ ความต้องการ และให้ทันกับการพัฒนาประเทศชาติให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนอย่างแท้จริง”

สำหรับในปีนี้ คณะกรรมการรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ ศ.ดร.นพ.วิปร วิประกษิต อาจารย์ประจำสาขาโลหิตวิทยาและอองโคโลยี ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล “ผู้คิดค้นและพัฒนาแนวทางในการวินิจฉัยโรคทางโลหิตวิทยาด้วยเทคโนโลยี จีโนมิกส์” คว้ารางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี 2565 รับพระราชทานรางวัล จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัล 400,000 บาท

ศ.ดร.นพ.วิปร เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยาโดยเฉพาะโรคเม็ดเลือดแดงและโรคโลหิตจาง ธาลัสซีเมีย มีความเป็นเลิศทางวิชาการ (Academic Excellence) มีผลงานวิจัยที่มีคุณภาพดีเด่น (High Quality Research output) อีกทั้งยังมีความสำคัญและเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ (Nationally Important) และเป็น ที่ประจักษ์ในระดับสากล (Globally Visible) ความเป็นเลิศทางวิชาการ มีผลงานวิจัยที่มีคุณภาพดีเด่น โดยพิจารณา ผลงานย้อนหลัง และ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่างานวิจัยได้รับการอ้างอิงมากกว่า 10,000 ครั้ง ในสาขาโลหิตวิทยา ซึ่งเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญของสมาพันธ์ธาลัสซีเมียนานาชาติและองค์การอนามัยโลก

โดยมีผลงานวิจัยที่สำคัญ ได้แก่ การค้นพบโรคทางโลหิตวิทยาชนิดใหม่ในคนไข้ชาวไทย และตั้งชื่อว่า โรคเคแอลเอฟ 1, การค้นพบกลไกการเกิดโรคพันธุกรรมแบบใหม่จากการเปลี่ยนแปลงลำดับดีเอ็นเอ ที่ส่งผลต่อ การควบคุมการแสดงออกของยีน, การวิจัยทางคลินิกของผลการรักษาภาวะเหล็กเกินด้วยยาขับเหล็กที่ผลิตขึ้น ในประเทศไทย, การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการประเมินภาวะเหล็กเกินด้วยการวิเคราะห์ภาพจากเครื่องตรวจ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, งานวิจัยเชิงลึกด้านพยาธิสรีรวิทยาของโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียทั้งในแง่กลไกทางพันธุกรรม อุบัติการณ์ สาเหตุ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ซึ่งผลงานดังกล่าวได้ถูกปรับใช้ในการพัฒนาการ ดูแลผู้ป่วยโรคทางโลหิตวิทยาและโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียในประเทศไทยและทั่วโลก ทั้งยังเป็นผู้ออกแบบและ จัดสร้างต้นแบบรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน (รถตรวจหาเชื้อโควิด 19) อีกด้วย

สำหรับรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ประจำปี 2565 ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัล 100,000 บาท ได้แก่

  1. ผศ. ดร. กมลวัช งามเชื้อ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเคมี สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี สุรนารี ผลงาน “งานวิจัยขั้นแนวหน้าทางเคมีไฟฟ้าและการประยุกต์ใช้เทคนิคเคมีไฟฟ้าในเซ็นเซอร์ตรวจวัดสารบ่งชี้ โรคและสารพิษในสิ่งแวดล้อม”
  2. ผศ. ดรสุรชัย กาญจนาคม อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ผลงาน “การพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อใช้ในการผลิตไบโอออยล์และสารเคมี”

Leave a Reply

Your email address will not be published.