คลินิกส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลตำรวจ จัดอบรมตำรวจรุ่นใหม่ห่างไกลโรคเอดส์ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ถ่ายทอดความรู้และเผยแพร่คำแนะนำสู่บุคคลรอบข้างรวมทั้งประชาชนทั่วไป เพื่อป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้นได้อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธร ภาค1 อ.เมือง จ.สระบุรี : คลินิกส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลตำรวจ ได้รับการจัดสรรงบประมาณเอดส์ ประจำปี 2566 จากคณะทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ เพื่อจัดอบรมให้ความรู้และการป้องกันโรคเอดส์รวมทั้งโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์แก่ข้าราชการตำรวจ นักเรียนนายสิบตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจและผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ของ รพ.ตร. พล.ต.ต.วีรพล สวัสดี ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 1 มอบหมายให้ พ.ต.อ.ศรณรินทร์ เปลรินทร์ อาจารย์ (สบ 4) ให้การต้อนรับ คณะวิทยากรนำโดย พ.ต.อ.จิรายุ วิสูตรนุกูล นายแพทย์ (สบ 5) พ.ต.อ.หญิง ยุภาพร ชาตะมีนา พยาบาล (สบ 5) พ.ต.อ.ภาสกร เนตรทิพย์วัลย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (สบ 4)

พ.ต.ท.หญิง ศตพร แย้มกลีบ

พ.ต.ท.หญิง ศตพร แย้มกลีบ พยาบาล (สบ 3) กลุ่มงานพยาบาล รพ.ตร. ผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวว่า การติดเชื้อเอชไอวี นับว่าเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญและส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมต่อทุกประเทศทั่วโลก จากรายงานของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAID) พบว่า ในปี 2564 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกสะสม 38.4 ล้านคน เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 1.5 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ 650,000 คน สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย ศูนย์รวมข้อมูลสารสนเทศด้านเอชไอวีของประเทศไทย (HIV INFO HUB) คาดประมาณผู้ติดเชื้อเอชไอวี มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ จำนวน 520,000คน ผู้ติดเชื้อที่กำลังรับยาต้านไวรัส 447,061 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,500 คน และมีผู้เสียชีวิตจากเอชไอวี 9,300 คน 

          ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่จำแนกตามอายุพบว่ากลุ่มอายุ 25-29 ปี มีผู้ป่วยสูงสุดจำนวน 3,161 คน คิดเป็นร้อยละ49 รองลงมาคือกลุ่มอายุ 20-24 ปีจำนวน 2,291 คน คิดเป็นร้อยละ35 กลุ่มอายุ 15-19 ปีจำนวน 914 คน คิดเป็นร้อยละ14 กลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไปจำนวน 70 คนคิดเป็นร้อยละ1 และกลุ่มอายุที่มีผู้ป่วยใหม่น้อยที่สุดคือกลุ่มอายุ 0-14 ปีจำนวน 49 คนคิดเป็นร้อยละ1 สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของโครงการได้แก่นักเรียนนายร้อยตำรวจและนักเรียนนายสิบตำรวจ ซึ่งมีอายุระหว่าง 19-29 ปี

          พ.ต.ท.หญิง ศตพร แย้มกลีบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะยุติปัญหาเอดส์ (Ending AIDS) ภายในปี 2573 โดยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560–2573 โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้เหลือปีละไม่เกิน 1,000 ราย ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวีเหลือปีละไม่เกิน 4,000 ราย ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวี

โรงพยาบาลตำรวจ เป็นหน่วยงานสนับสนุนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่ดูแล รักษาป้องกันและส่งเสริมสุขภาพกำลังพล ซึ่งข้าราชการตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจและนักเรียนนายสิบตำรวจ ถือว่าเป็นกำลังพลที่สำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  และเป็นกลุ่มบุคคลที่สำคัญของประเทศด้วย ดังนั้น ถ้าบุคคลกลุ่มนี้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศสัมพันธ์อย่างถูกต้อง จะนำไปสู่การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ อีกทั้งสามารถถ่ายทอดความรู้เหล่านี้และเผยแพร่ คำแนะนำไปสู่บุคคลรอบข้างรวมทั้งประชาชนทั่วไปได้ ซึ่งเป็นวิธีการหรือกลยุทธ์ป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้นได้อย่างยั่งยืน

“คลินิกส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลตำรวจ จึงได้จัดทำโครงการตำรวจรุ่นใหม่ห่างไกลโรคเอดส์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ข้าราชการตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจ นักเรียนนายสิบตำรวจและผู้เข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ โดยใช้งบประมาณเอดส์ ปี 2566 เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกำลังพลกลุ่มนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจและทักษะการป้องกันเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถเลือกและใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างถูกต้อง” พ.ต.ท.หญิง ศตพร แย้มกลีบ กล่าวเสริม

พ.ต.ท.หญิง ศตพร แย้มกลีบ กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการตำรวจรุ่นใหม่ห่างไกลโรคเอดส์ มีเป้าหมายเพื่อฝึกอบรม ข้าราชการตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจและนักเรียนนายสิบตำรวจ ตลอดจนผู้เข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ รวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 1,400 คน ในปีงบประมาณ 2566 นี้

Leave a Reply

Your email address will not be published.