วว. โชว์ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน @ สถานีวิจัยลำตะคอง นครราชสีมา มุ่งสร้างความยั่งยืนภาคการเกษตรไทย

กระทรวงการอุดมศึกษา  วิทยาศาสตร์  วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย  (วว.)  จัดตั้ง  ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมช  (Community  Seed  Bank) มีศักยภาพอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืชในระยะสั้น ปานกลาง  ระยะยาว  20-50  ปี  เก็บรักษาตัวอย่างเมล็ดพืชสูงสุด 10,000 ตัวอย่าง  ณ สถานีวิจัยลำตะคอง  จ.นครราชสีมา  ภายใต้การดำเนิน  โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ   ผ่านการขับเคลื่อนใน  3  มิติ   คือ  สำรวจ-อนุรักษ์   วิจัย-นำไปใช้ประโยชน์   และให้บริการชุมชน  มุ่งหวังสร้างความยั่งยืนให้ภาคการเกษตรของประเทศ

          ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา  เอี่ยมโชติชวลิต   ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า  วว. โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์  ในส่วนของ สถานีวิจัยลำตะคอง  จังหวัดนครราชสีมา  ได้เข้าร่วมสนองพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) เพื่อดำเนินการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ  ภายใต้การดำเนินงานดังกล่าว วว. จึงได้จัดตั้ง ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน (Community  Seed  Bank)  ขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งสำหรับการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชแบบนอกถิ่นที่อยู่อาศัย  (Ex  situ  Conservation) โดยการสร้างสภาพแวดล้อมในการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ให้คงความมีชีวิตและอยู่ได้นานที่สุด  ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชนแห่งนี้ จะเป็นศูนย์กลางการอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืชป่าและพืชพื้นเมือง  เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชของประเทศไทย  โดยจะทำหน้าที่เป็นแหล่งรวบรวมและเก็บรักษาพันธุกรรมพืชที่ดีและพืชที่มีความสำคัญต่องานด้านการอนุรักษ์

          “การจัดตั้ง ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน สอดคล้องกับนโยบาย BCG Model ของรัฐบาลซึ่งให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ที่มุ่งเน้นเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาและวิจัยเมล็ดพันธุ์ข้าว พืชผัก ในภูมิภาค เพื่อผลักดันระบบการเกษตรไทยสู่การเกษตรยั่งยืนบนความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมต่อยอดการพัฒนาเมล็ดพันธุ์เป็นสินค้าส่งออกในอนาคต  ทั้งนี้ วว. เชื่อมั่นว่าการดำเนินงานของธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน จะช่วยตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลให้เป็นรูปธรรม” ผู้ว่าการ วว. กล่าว

นายมนตรี   แก้วดวง    ผู้อำนวยการสถานีวิจัยลำตะคอง  วว. กล่าวเพิ่มเติมว่า  ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน มุ่งดำเนินงานขับเคลื่อนใน  3  มิติหลัก  คือ 1.การสำรวจและการอนุรักษ์   เก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืช  ทั้งพืชป่า  พืชพื้นเมือง และพืชป่าใกล้เคียงพืชปลูก  รวมทั้งเป็นแหล่งข้อมูลพื้นฐานทางด้านเมล็ดพันธุ์   2.การวิจัยและการนำไปใช้ประโยชน์  ศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของพืช  ศึกษาวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านเมล็ดพันธุ์นำไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน   และ  3.การบริการชุมชน  ได้แก่   งานบริการรับฝากเมล็ดพันธุ์เพื่ออนุรักษ์ในธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช  ทั้งในส่วนของบุคคล ชุมชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชบางชนิดเพื่อการวิจัยและการใช้ประโยชน์  รวมทั้งการให้บริการด้านวิชาการเกี่ยวกับการอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืช  การใช้ประโยชน์และการดำเนินงานของธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน เช่น ศึกษาดูงาน ให้คำปรึกษาด้านเมล็ดพันธุ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านเมล็ดพันธุ์สู่ชุมชน

ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน  วว.  ดำเนินงานเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์จากการสำรวจและงานวิจัย 80% งานบริการรับฝากเมล็ดพันธุ์ 20%  มีความพร้อมของบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญด้านการวิจัยและพัฒนาด้านเมล็ดพันธุ์  มีห้องเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ระยะปานกลาง (4 องศาเซลเซียส) เพื่อการอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืชในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง โดยเฉลี่ยประมาณ 2-20 ปี  และมีห้องเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ระยะยา(-20 องศาเซลเซียส) เพื่อการอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืชในระยะยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 20-50 ปี  มีศักยภาพในการเก็บรักษาตัวอย่างเมล็ดพืชสูงสุด ประมาณ 10,000 ตัวอย่าง  ปัจจุบันได้เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์จำนวน 140 ชนิด  โดยมีเมล็ดพืชที่พบเฉพาะในประเทศไทย (endemic species) 20 ชนิด 

ทั้งนี้ ธนาคารเมล็ดพันธุ์ชุมชน  วว. เปิดให้ผู้สนใจ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และบุคคลทั่วไปเข้าศึกษา อบรม และรับการถ่ายทอดความรู้ด้านเมล็ดพันธุ์ ณ สถานีวิจัยลำตะคอง  จังหวัดนครราชสีมา  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ 333 หมู่ 12 ถ. มิตรภาพ ต. หนองสาหร่าย อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา 30130   โทรศัพท์/โทรสาร 044-390107 ,044-390150 ,คุณเบญจมาศ  088-1911144 , คุณอรุณวรรณ  087-8793330  E-mail : lamtakhong@tistr.or.th

Leave a Reply

Your email address will not be published.